เมื่อวันอาทิตย์ตอนเย็นเพื่อนๆเมลีสอีกสามคนมากินข้าวที่บ้านเนื่องในวันอีสเตอร์ ฝรั่งเศสหมดเลย๕๕ แต่เขาก็พยายามพูดเยอรมันกันเพื่อที่เตยจะได้คุยด้วยได้ (ปล. ทุกคนพูดเยอเก่งมาก) เตยทำแกงเขียวหวานเป็นอาหารเย็น ส่วนของหวานตบท้ายเมลีสเป็นคนทำ เขาอบ crumble ซึ่งมันอร่อยมากๆๆๆๆ ชอบอ่ะมันเหมือนเค้กแอปเปิ้ลยังไงไม่รู้นะ แต่อร่อยมากๆ ๕๕๕ ติดใจ และอ้วนมาก
อันนี้วิวจากห้องครัว พระอาทิตย์ตกสวยมากๆเห็นฟ้าเป็นชั้นๆเลย ><
วันถัดมา(เมื่อวาน) ก็ได้เจอเพื่อนเมลีสอีก แต่ไม่ใช่คนที่มากินข้าวเมื่อวันจันทร์นะ เมื่อวานไม่ได้ทำอะไรกันมาก แค่ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ Volkspark Friedrichshain แต่รอบนี้เตยได้พูดไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เค้าพูดฝรั่งเศสกัน มันมีอิทธิพลทำให้อยากเรียนภาษานี้ขึ้นมากจริงๆนะ คือแบบฟังเค้าพูดกันแล้วก็ชอบอ่ะ ทำไมเตยถึงไม่เรียนอักษรไปเลยนะเนี้ยชอบภาษาขนาดนี้ ไม่เข้าใจตัวเอง๕๕๕ เมื่อวานแอบฮาเพื่อนเมลีส ทิโบ้ซึ่งมีแฟนเป็นคนเยอรมัน พูดเยอรมันไฟแล่บเชียะ เค้าเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันอีสเตอร์เค้าไปกินข้าวกับบ้านแฟน(ทั้งครอบครัว)มา แล้วก็เป็นวันเกิดของแม่แฟนด้วย ไม่อยากเชื่อว่าเค้าจะเคร่งประเพณีมากๆอยู่นะคนเยอรมัน คือทุกคนมายืนถือไฟเย็นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ร้องเพลงวันเกิด แล้วก็เข้าไปกอดแล้วอวยพรเล็กๆน้อยๆให้แม่ทีละคน เตยฟังละ อือหื๊อ มันยังมีอยู่อีกหรอประเพณีคลาสสิคขนาดนี้ ทิโบ้ก็คาดไม่ถึงเช่นกัน๕๕๕ หลังจากนั้นก็กินข้าวเช้า แล้วก็ไปหาไข่ในสวนกันด้วย เตยแบบ โอ้ยน่ารักอาวาอี้๕๕๕ เขาเล่าว่าครอบครัวเค้าอุตส่าห์ทำถุงใส่ไข่พิเศษมีชื่อ ทิโบ้ ติดอยู่ด้วยนะ เป็นถุงเดียวที่มีชื่อ เค้าภาคภูมิใจมาก อิอิ น่ารักจังคนเยอรมัน ๕๕
ขากลับจากสวนสาธารณะเตยกับเมลีสก็แวะร้าน Frozen Yoghurt Wonderpots ที่ Friedrichstraße อร่อยมากๆ รู้จักจากคราวก่อนที่มากินกับพี่รส คราวที่แล้วลืมถ่ายรูปเพราะหิว แต่คราวนี้เตยไม่พลาดจย้า
อันนี้เป็นแพคเกจ Classic Special 4.50 euros นะจ้ะ จะได้โยเกิร์ตถ้วยกลาง + 3 toppings เลือกได้ตามใจชอบ
หลังจากกลับมาบ้าน เราก็ดูหนัง (สตรีมนะคะ เป็นนักเรียนจนๆไ่ม่มีเงินเข้าโรงหนังกันบ่อย๕๕๕) Interstellar เพราะเมลีสไม่เคยดู นี่ก็เป็นรอบที่สี่ของเตยแล้วล่ะ แต่หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ที่สุดของที่สุดแล้วจริงๆ เตยชอบ Christopher Nolan มากกกกๆๆๆๆ คือแบบ ทำได้ไงงง ชอบตั้งแต่ Inception แล้ว ปลื้มมากกก
คูปเปอร์จ๋าเท่สุดๆ
ความจริคือขนมเหลือจากวันอาทิตย์ที่กินข้าวกัน๕๕ เลยเอามากำจัด เตยกลัวว่าเมลีสจะไม่ชอบหนังแนววิทยาศาสตร์เล็กๆ เพราะเขาเรียนบริหาร แต่เค้าก็ชอบน้า เตยดีใจมากๆที่ได้เผยแพร่ความชอบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อิอิ รู้สึกดีที่เราเข้ากันได้ดี จนถึงตอนนี้ทุกอย่างก็โอเคนะเตยว่า มันไม่ได้ซับซ้อน เพราะเราก็พูดกันตรงๆ ว่างก็คือว่าง
หลังจากหนังจบ เราดันคุยเตลิดกันไปถึงเรื่องจิตวิทยา เล่าเรื่องการฝัน อะไรแบบนี้ จิตใต้สำนึก เตยก็เล่าให้ฟังว่าเตยฝันอะไรซ้ำๆอยู่บ้าง แล้วเตยว่ามันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เมลีสว่ามันต้องมีสิ มันมาจากจิตใต้สำนึก เตยก็เอิ้ม คือมันเป็นฝันว่าเตยขับรถกระบะแล้วไปชนต้นกระท้อนที่บ้าน (แต่ก่อนเคยฝันบ่อย แต่ตอนนี้ไม่ได้ฝันแล้วตั้งแต่ต้นกระท้อนโดนตัด) เตยเป็นคนขับ เห็นแสงไฟหน้าสาดใส่ลำต้นกระท้อนชัดมากๆ ชนแล้วฝันก็ตัดไป มันไม่ได้มีความหมายอะไรมั้ง แต่เคยฝันแบบนี้บ่อยจนจำได้น่ะ เลยรู้สึกงงๆ อีกอย่างที่รู้สึกแปลกๆคือความทรงจำแรกของเตยเองในชีวิต เตยจำได้ว่าเตยเห็นกางเกงสีส้มลายข้าวหลามตัดตัวโปรดของเตย แบบเห็นขาจากข้างหลังแล้วก็ลุกเดินไปงี้ ตอนเด็กๆก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เพราะก็ไม่เห็นแปลกอะไรกางเกงสีส้ม แต่พอโตหน่อยก็คิดว่า
เฮ้ย
แล้วเราจะเห็นตัวเองจากด้านหลังได้ไงวะ...
เท่านั้นแหละครับ แปลกเลย
เมลีสก็บอก เออแปลกจริง แต่เอาจริงๆนะ ทุกคนมันก็ไม่มีใครปกติหรอก เราแค่ต้องหาคนที่ป่วยจิตพอๆกับเรา เราถึงจะอยู่ด้วยกันได้ ไม่ต้องคิดว่าตัวเองแปลกหรอกเธอ แบบนี้ เตยก็โอเค งั้นเรามาป่วยด้วยกันเถอะ๕๕๕
ส่วนวันนี้ มาราธอนมากๆ นอนดึกตื่นเช้า เพราะเตยมาส่งน้องจินนี่กับพิมมาลงทะเบียนที่อำเภอ รอกันตั้งแต่แปดโมง อำเภอเดียวกับที่เตยไปลงทะเบียนนั่นแหละ พอประมาณเก้าโมงครึ่งดันเกิดเหตุการณ์อลังการขึ้น คือมีผู้ชายคนหนึ่งเขามาบอกว่า เรามาต่อแถวกันเถอะ จินนี่กับพิมมาเป็นคนแรก ให้มายืนตรงนี้เลยๆจะได้คิวชัดเจน ไอ่เราก็เออๆก็ธรรมดา คราวแล้วก็ต่อคิวกันเงี้ยแหละ แต่ดั๊นมีมนุษย์ป้าสองคนที่ยืนจ่อหน้าประตูนางไม่ยอมค่า แถมยังเถียงอีกว่าก็ฉันแค่จะยืนอยู่ตรงนี้เฉยๆจะทำไม ไม่ได้ตั้งใจจะแซงคิวหรอกนะ ฉันแค่ยืนพิงประตูเฉยๆ (ไม่ได้อยากแซงเล้ย ไม่เลยยยยย) อีกอย่างธุระของฉันน่ะแป๊ปเดียว ไม่นาน ผู้ชายคนนี้ก็บอกว่ามันไม่เห็นเกี่ยวว่าธุระใครจะนานไหม แต่คนมาก่อนก็ต้องได้ทำก่อนสิ เราก็รอมาสองชั่วโมงเหมือนๆกันนะทุกคนที่นี่ มนุษย์ป้าก็แถบอกว่า ละทำไมเธอต้องมาปกป้องแทนสองคนนี้(พิมกับจินนี่)ด้วยล่ะ สองคนนี้ทำไมไม่พูดเอง เตยนี่อยากเดินไปโบก บอกว่าอะไรนะพูดอีกทีซิ (ความจริงเถียงกันดังและนานมาก อยู่ๆลากมาประเด็นเหยียดชาติได้ไงไม่รู้ แร็พเยอรมันเลยทีเดียว) แต่ผู้ชายคนนี้ขึ้นไปแล้วครับว่า มันไม่เห็นเกี่ยวว่าเขาจะพูดไหม ทำไม เห็นคนต่างชาติเป็นพลเมืองชั้นสองหรอ ชาวต่างต่างชาติจะยืนรอแต่คนเยอไม่ต้องงั้นซิ ฉันเบื่อมากแล้วนะกับเรื่องแบบนี้ ฯลฯ เถียงกันนานยาวเหยียด เตยตกใจเลย เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆแค่ยืนต่อคิวเองป้า มันสากลนะ กลายเป็นเรื่องใหญ่เฉย theater สุดๆ สุดท้ายอำเภอออกมาบอกว่า เราให้คนที่ไม่ได้นัดหมายไว้ก่อนทำธุระไม่ได้ วันนี้คิวเต็มจริงๆ แห้วทุกคนที่มายืนรอ
เตยก็อื้ม ไม่ทะเลาะกันน้าทุกคน ใจร่มๆ
เอฟรี่ติงส์กอนนาบีออลไรท์




No comments:
Post a Comment