06 May 2016

05.05.2016 once in a while

วันนี้แดดออกนะ 
ต้นไม้สีเขียว สีเหลือง สีชมพู ใบไม้ปลิวไปมาอยู่กับที่เวลาลมพัดผ่าน
มีเสียงรถวิ่งผ่านลอดเข้ามาจากหน้าต่างที่แง้มไว้
คันแล้วคันเล่า จนกลายเป็นความเคยชิน
บางครั้งได้ยิน บางครั้งก็ไม่ได้ยิน 
เหมือนเสียงเข็มนาฬิกา ที่ดัง
ติ๊กๆ
อยู่ตลอด 
เหมือนเสียงหัวใจ ที่ดัง
ตุ้บๆ
อยู่ตลอด
แต่เราไม่ได้ยิน

.

ในห้องน้ำ เรานั่งฟังเสียงรถผ่านไปผ่านมาเช่นเดิม 
โอ่ะ เสียงนี้มันดังผิดปกติ ไม่รถเมล์ก็รถบรรทุกแน่ๆ
ไอ้รถเมล์ที่ตอนเช้าไม่เคยมาตรงเวลาสีเหลืองๆ

เรานั่งเอาศอกค้ำไว้บนหน้าตัก
มองเทียนสีม่วงกลิ่นลาเวเดอร์ที่เคยจุดไปหนึ่งครั้ง ข้างๆมีต้นลาเวนเดอร์ที่ซื้อมาจาก ikea
ทั้งสองอย่างตั้งอยู่บนสิ่งที่เคยเป็นจานอาหารแมวสีกรมท่า เข้ากันพอดิบพอดี
ว่าแต่ต้นนี้มันเริ่มบานๆแปลกๆนะ
คงต้องมาเล็มมาดูแลสักหน่อย

สิ่งที่นั่งดูทุกวันตอนเข้าห้องน้ำคือหน้าต่าง
หน้าต่างห้องน้ำเป็นลายคล้ายๆโมเสค กระจกที่เป็นชิ้นเล็กๆจนมองอะไรไม่เห็น
ไม่แน่ใจว่าเพื่อความปลอดภัยของเราเอง หรือคนที่มองเข้ามา
เพราะบางทีเราก็ตกใจเวลามองเข้าไปในหน้าต่างเพื่อนบ้าน

.

วันนี้ตัดผมสั้นแล้วนะ เพื่อนตัดให้
รู้สึกตื่นเต้นปานกลางถึงมาก อยู่ๆก็รู้สึกชอบผมสั้นขึ้นมา
เรารู้สึกได้ถึงผมเป็นเส้นๆตอนกำลังโดนตัด
มันดังครืดๆแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกที่ได้รับเฉลี่ยปีละครั้ง
ครั้งนี้มันโดนตัดไปเยอะกว่าปกติ

เราคิดว่ามันเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการเริ่มต้นใหม่
ความตั้งใจ แค่คิดไว้มันคงไม่ชัดพอ มันต้องการบางอย่างรูปธรรม
ไหนๆก็ใกล้วันเกิดแล้ว อยากเริ่มต้นทำบางอย่างแปลกใหม่
ทำวันนี้เลยแล้วกัน

.

หลังตัดผมเรากินข้าว เรานั่งกินกันสามคน
มีอาหารจีนหนึ่งอย่าง กับผัดกระเพราไข่ดาวของเราเอง
หลังกินเสร็จเราสามคนนั่งอืดบนเก้าอี้ท่าเดียวกันหมดทุกคน คือเอนหลังพิงพนักแล้วตัวสไลด์ลงมาหน่อยๆ แล้วพูดว่า
"Ich bin satt!" --ฉันอิ่ม!
หลังจากนั้นเราก็ขยับเขยื้อนเข้ามาในห้องช้าๆ 
นั่งคุยกันสักพัก แล้วเพื่อนสองคนก็กลับบ้านไป
เราเปิด playlist เพลงคลาสสิค
แดดกำลังส่องอยู่บนเตียง แดดจ้า จ้ามากๆ
เราคลานขึ้นเตียง นอนตากแดดอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ทาครีมกันแดด ไม่ได้รู้สึกต้องออกไปไหนถึงแม้จะอากาศดี
นอนกอดตุ๊กตาสองตัวนอนตากแดดอยู่อย่างนั้น

.

เราตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเพลงมันกระหึ่มและปลุกเร้าเกินไป
เพลงคลาสสิคบางทีก็ตึงเครียดเร้าอารมณ์มาก
ก้าวที่ลุกออกจากผ้าห่มมันเย็นวาบเล็กๆ เรารีบเดินไปปิดเพลงแล้วรีบแจ้นกลับเข้ามาในเตียงแสงแดดของเราเพราะหนาวขา
เรานอนแบบใส่แว่นค้างไว้เลยนะตะกี้

เรานอนมองก้อนเมฆขาวบางๆลอยอยู่กลางท้องฟ้าสีฟ้า
เสียงรถยนต์ยังแล่นเหมือนเดิม
นอนมองเมฆมันลอยช้าๆเฉยๆ เราเอ็นจอยวันหยุดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
once in a while ก็ไม่เลว

.

ตอนเย็นทำกับข้าวกินกับไมลีส
ความจริงก็แค่เกี๊ยวซ่ากับสลัดธรรมดา
นั่งดู Danish Girl ที่สวยงามอย่างน่าเศร้า
เราไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมดที่เขาพูด แต่ความรู้สึกนั้นมันดังกว่า
รู้สึกว่าการใช้ชีวิตมิใช่การมีชีวิตที่ยืนยาว เวลาอันยาวนานจะมีความหมายอะไรถ้าเราไม่รู้สึกถึงมัน ไม่ได้ใช้มัน
ไมลีสไอทุกๆครึ่งนาทีได้ เธอไม่สบายมาสักพักแล้ว เราเริ่มเป็นห่วง แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เราเลยยอมรับอย่างนั้น และบอกเธอว่าถ้าวันเสาร์ไม่หายน่าจะไปหาหมอได้แล้วนะ
เธอรับปาก แต่เรารู้ว่าเธอไม่น่าจะไป

.

วันนี้เป็นวันที่ดีมากๆนะ
เราคิดว่า เรารู้สึกว่าบ้านนี้เป็น 'บ้าน' จริงๆแล้ว

Ich bin zu Hause.

No comments:

Post a Comment